นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เลือกวิธีคลอดลูกด้วยตัวเองนั้นมีหลายวิธี คุณแม่สามารถเลือกวิธีที่ดีที่สุดต่อสุขภาพของคุณและลูกน้อย ในต่างประเทศ คุณแม่อาจเลือกทำคลอดที่บ้านได้ แต่สำหรับประเทศไทย คุณแม่ส่วนใหญ่จะเลือกการทำคลอดที่โรงพยาบาล ซึ่งมีทั้งคลอดลูกแบบธรรมชาติ ผ่าตัดคลอด หรือการคลอดลูกในน้ำ การคลอดลูกแต่ละวิธีนั้นส่งผลต่อลูกต่างกัน ระดับความเจ็บไม่เท่ากัน แต่มีความปลอดภัยแทบจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งนอกจากวิธีการคลอดลูกแล้ว ยังต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ด้วย
การคลอดในโรงพยาบาล มีข้อดีตรงที่เป็นศูนย์รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย คุณแม่มีทางเลือกมากมายในการลดความเจ็บปวด และถ้าจำเป็น ก็สามารถเข้ารับการผ่าตัดคลอดได้ทันที พร้อมยังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในกรณีฉุกเฉิน
คุณแม่สามารถปรึกษาสูติแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการคลอดและการดูแลในขณะคลอดได้ และหากมีเรื่องที่คุณแม่กังวลใจหรือวิตกกังวล ควรแจ้งให้แพทย์ได้ทราบเพื่อปรึกษาหาทางเลือกที่เหมาะสมในการคลอดลูก
สำหรับคุณแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง การคลอดลูกแบบธรรมชาติจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณและลูกน้อย สูติแพทย์จะตรวจดูช่วงใกล้ถึงกำหนดคลอดว่าทารกในครรภ์อยู่ในท่าศีรษะกลับลงสู่เชิงกรานหรือไม่ การคลอดธรรมชาตินั้น คุณแม่จะรู้สึกเจ็บครรภ์ตามธรรมชาติซึ่งจะไม่เกินความอดทนสำหรับคุณแม่ที่มีต่อลูกน้อย พยายามอย่าใช้ยาเร่งคลอด ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ สูติแพทย์อาจฉีดยาแก้ปวดเข้าทางเส้นเลือดหรือฉีดยาชาเข้าทางไขสันหลังเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดให้คุณแม่
สูติแพทย์อาจแนะนำคุณแม่บางท่านให้ผ่าตัดคลอดในกรณีมีโรคประจำตัว มีบุตรเมื่ออายุมาก หรือศีรษะทารกไม่กลับสู่เชิงกรานเมื่อครบกำหนดคลอด หรือคุณแม่บางท่านเชื่อฤกษ์ยาม การผ่าตัดคลอดจะทำให้คุณแม่เสียเลือดมากกว่าการคลอดโดยธรรมชาติถึง 2 เท่าและจะเจ็บแผลนานกว่า แพทย์จึงแนะนำให้ผ่าตัดเฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
สูติแพทย์จะแนะนำให้คุณแม่ดมยาสลบหรือฉีดยาเข้าไขสันหลังเพื่อลดความเจ็บปวดและทำการผ่าตัดได้อย่างได้ผล โดยคุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างผ่าตัด
สมัยนี้ แม่เลือกการคลอดลูกแบบผ่ากันมากขึ้น เพราะเริ่มจะมีลูกกันช้าลง อายุมากขึ้น คลอดธรรมชาติยากขึ้น ยังไม่รวมโรคประจำตัวอย่าง ความดัน เบาหวาน และที่สำคัญไม่ต้องเจ็บคลอดเอง ทำให้การผ่าคลอดเป็นทางเลือกที่นิยมมากสมัยนี้ นอกจากนั้น ก็มีพ่อแม่บางคนที่ถือฤกษ์ถือยาม จึงเลือกการผ่าตัดคลอดมากกว่า ด้วยความเชื่อว่าเวลาเกิดที่ดี จะช่วยส่งเสริมความเจริญให้กับชีวิตลูก การผ่าตัดคลอดในปัจจุบัน
การคลอดแบบผ่า จะเริ่มจากการดมยาสลบ และการฉีดยาเข้าที่ไขสันหลัง เรียกอีกอย่างว่า การบล็อกหลัง การผ่าตัดคลอดแบบดมยาสลบ คุณแม่จะไม่ได้มีส่วนร่วมในการคลอด ไม่ได้เห็นลูก ไม่ได้สัมผัสลูกหลังจากคลอดทันที เพราะต้องรอให้ฟื้นเสียก่อน และข้อเสียของการผ่าคลอดลูก เช่น ยาสลบอาจมีผลกับลูก ทำให้คลอดออกมาไม่ร้อง หายใจเบา เพราะรับยาสลบเข้าไปด้วย และการบล็อกหลัง คุณแม่นอนตะแคงให้ตัวงอแล้วฉีดยาเข้าไขสันหลัง โดยจะต้องฉีดยาชาก่อน จากนั้นร่างกายส่วนล่างก็จะชา สิ่งที่แตกต่างคือ คุณแม่จะมีสติและมีส่วนร่วมในการทำคลอด ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้าลูก แต่หลังผ่าตัดก็จะยังชาต่ออีก 2-3 ชั่วโมง และที่สำคัญลูกการบล็อกหลังจะดีตรงที่ ลูกจะไม่ได้รับยาชาที่ฉีดไปด้วย เพราะยาจะเข้าตรงไปที่โพรงประสาทไขสันหลัง ไม่ได้ดูดซึมเข้ากระแสเลือดเหมือนการดมยาสลบ ซึ่งการบล็อกหลังข้อเสียคือ คุณแม่จะเสียเลือดมากกว่า และจะเจ็บแผลนาน แถมยังจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการคลอดธรรมชาติและแบบอื่นๆ
การคลอดลูกในน้ำเป็นวิธีหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมในต่างประเทศ เพราะช่วยลดความเจ็บปวดในการคลอด แต่ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากนัก การคลอดด้วยวิธีนี้ สุขภาพของคุณแม่ต้องแข็งแรง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ หากคุณแม่มีความพร้อมและมีสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องให้ยาแก้ปวดหรือฉีดยาใดๆ และเมื่อศีรษะของทารกพ้นจากช่องคลอดของแม่แล้ว ก็สามารถลอยตัวอยู่ในน้ำ ช่วยรองรับแรงกระแทก ป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย รวมถึงคุณแม่เองก็จะรู้สึกเบาสบาย ไม่เจ็บอีกด้วย
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง