ตั้งชื่อลูกอย่างไรให้ทันสมัยไม่ตกเทรน 2019

การตั้งชื่อลูกบอกเลยว่า สำหรับพ่อแม่บางคน ถ้าเลือกเยอะอาจเป็นเรื่องปวดหัวได้เหมือนกัน สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หัดขับ หรือจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกมาหลายคนแล้วก็ตาม พ่อคุณแม่บางท่านอยากให้ลูกเป็นตัวแทนของความน่ารัก จึงตั้งชื่อลูกแบบน่ารักๆ ให้แต่พอลูกโตขึ้นมาชื่อที่เคยใช้เริ่มไม่ได้แล้ว เพราะดูไม่เหมาะสมไปเลยก็มี และที่สำคัญชื่อเชยๆ เก่าๆ ที่ใช้ซ้ำกันไปมาเป็นร้อยปีก็มีมาก ที่พ่อแม่หลายคนสมัยนี้ต้องการหลีกเลี่ยง เพราะอยากให้ลูกดูทันสมัย ทันโลก อินเตอร์กับสังคมยุคออนไลน์ ดังนั้น เรามีคำแนะนำสำหรับท่านที่ต้องการตั้งชื่อลูกให้ทันสมัยและเหมาะกับลูกในอนาคตดังนี้

6 เคล็ดลับง่ายๆ ตั้งชื่อลูกให้ทันสมัยไม่ตกเทร็น

ตั้งชื่อลูกให้ทันสมัย มีข้อแนะนำดีๆ คือ การตั้งให้สื่อความหมาย จำง่ายและเรียกง่ายด้วย นั่นเอง ที่สำคัญสมัยนี้ โลกยุคไร้พรมแดนถ้าชื่อนั้นสามารถเรียกง่ายทั้งในภาษาไทยและภาษาอื่นๆ แล้วละก็ไม่ตกเทรนแน่นอน มาดูเทคนิคการตั้งชื่อให้ทันสมัยไม่ตกเทรนกันดังนี้

1. ตั้งชื่อที่ใช้เรียกได้ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เช่น ฌอน แปลว่า ความสง่างามของพระผู้เป็นเจ้า เวลาเรียกเป็นภาษาอังกฤษ คือ SHAWN เช่น แปลว่า ของขวัญจากพระเจ้า เวลาเรียกเป็นภาษาอังกฤษ คือ SHANE และ มรรค ที่จะหมายถึง แสงสว่าง เวลาเรียกเป็นภาษาอังกฤษ คือ MARK เป็นต้น

2. เป็นชื่อที่สื่อความหมายในสมัยนิยม เขียนง่ายอ่านคล่อง

ปัจจุบัน การตั้งชื่อลูกไม่จำเป็นต้องยาว ขอเพียงสื่อความหมาย และ 
ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์และหลักการที่ถูกต้องตาม พรบ. ชื่อบุคคล พ.ศ. 2548 ก็เพียงพอแล้ว และที่นิยมกันมากคือ ชื่อพยางค์เดียวที่สื่อความหมายเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น ภัทร กานต์ กริช กฤช กฤษฎ์ เจษฏ์ จิณณ์ ณัฐ เป็นต้น 
ชื่อพยางค์เดียว เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะสามารถเรียกได้ทั้งชื่อจริง 
และชื่อเล่น จดจำง่าย ความหมายดีและบางชื่อเรียกและสะกดเป็นภาษาอังกฤษได้ง่ายกว่าชื่อหลายพยางค์

3. เป็นชื่อลูกที่ใช้ได้ในปัจจุบันและอนาคต

ความหมายคือ ตอนเป็นเด็กใช้ชื่อนี้น่ารัก แต่ตอนโตก็เก๋ และตอน ทำงานก็ดูเหมาะสม ดูน่าเชื่อถือ คำแนะนำข้อนี้ ดูเหมือนยากแต่ไม่ยาก เริ่มง่ายๆ จากการนำชื่อพ่อแม่มาเป็นตัวตั้ง ใช้สัญชาติญาณความเป็นผู้ให้กำเนิดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกจากนั้น ค่อยมาดูหลักการความถูกต้อง และหากมีความเชื่อทางหลักศาสนาก็มาตรวจดูบ้างตามความเชี่ยวชาญต่อไป

4. ตั้งชื่อชื่อจริงสั้นๆ หรือชื่อที่สามารถนำมาย่อเป็นชื่อเล่นได้

ผู้เขียนเองก็เคยมีเพื่อนผู้ชายอยู่คนหนึ่งชื่อว่า มิวส์ (Mews) ถามไปถามมาจึงได้รู้ว่า เป็นทั้งชื่อเล่น และชื่อจริง พังดูเก๋ดีไม่น้อย และสามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง จำง่าย อินเตอร์ ชื่อเหล่านี้ ยังมีอีกมากให้ค้นพบ แค่ต้องดูให้ถูกต้องกับ พรบ. แค่นั้น ซึ่งสามารถพลิกแพลงได้ เพราะยังมีชื่อสะกดไทยอีกมาก ที่ฟัง หรือออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษที่คนไทยสามารถตั้งได้อย่างถูกกฏหมาย พยายามนึกถึงตอนที่ออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษว่าจะต้องสะกดและออกเสียงอย่างไรด้วย

5. ตั้งชื่อลูกให้ อินเตอร์และดูดี

สำหรับพ่อแม่ที่วางแผนให้ลูกอินเตอร์ตั้งแต่เด็กๆ เช่น วางแผนจะให้เรียน โรงเรียนนานาชาติ ไปเรียนต่อต่างประเทศ การตั้งชื่อครั้งแรกคิดไว้เลยว่า เวลาที่เขียนภาษาไทยแล้ว จะเขียนภาษาอังกฤษอย่างไร เช่น ภูริทัต ภาษาอังกฤษ จะเขียนว่า PURITAT แต่ชื่อเล่นก็อาจจะเขียนเป็น THUT หรือ TRUST เพื่อให้อ่านและเข้าใจง่ายเป็นต้น

6. ค้นหาในอินเตอร์เน็ตมีชื่อให้เลือกอีกมาก

ได้เทคนิคการตั้งชื่อลูกให้อินเตอร์ ให้ทันสมัยไม่ตกเทรน เราสามารถค้นหาชื่อลูก เก๋ๆ และถูกใจได้ในเวปไซต์มากมายทั้งในเมืองไทยและต่างชาติ แต่หลักสำคัญคือ การตั้งชื่อให้ถูกหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะช่วยให้การตั้งชื่อลูกได้ถูกใจและถูกต้อง เพราะ “ชื่อ” คือ ความภูมิใจที่พ่อแม่มอบให้ลูกเป็นของขวัญติดตัวตลอดชีวิตนั่นเอง