นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
อาการและสัญญาณที่ควรสังเกตเกี่ยวกับอาการที่ลูกท้องผูก
สาเหตุที่ทำให้ลูกท้องผูกในแต่ละวัย
ลูกท้องผูก 2 ขวบ ควรดูแลอย่างไรให้ถ่ายได้เป็นปกติ
ลูกท้องผูก 3 ขวบ ไม่ถ่ายหลายวัน อันตรายไหม?
ลูกไม่ถ่าย 7 วัน 3 ขวบ ควรพาไปพบแพทย์เมื่อไหร่
ลูก 1 ขวบ ท้องผูกทำยังไงดี? วิธีช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย
อาหารที่ช่วยให้ลูกขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันอาการท้องผูก
พฤติกรรมที่ควรปรับเมื่อลูกถ่ายยาก
อาการท้องผูกในเด็กเล็กเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายคนกังวล โดยเฉพาะเมื่อ ลูกท้องผูก 2 ขวบ หรือ ลูกท้องผูก 3 ขวบ และกรณีที่รุนแรง เช่น ลูกไม่ถ่าย 7 วัน 3 ขวบ ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ปัญหาท้องผูกยังพบได้ในเด็กที่อายุน้อยกว่า เช่น ลูก 1 ขวบ ท้องผูกทํายังไงดี หรือ ลูก 7 เดือน ถ่ายเป็นก้อน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าระบบขับถ่ายของลูกทำงานผิดปกติ
พ่อแม่ควรสังเกตอาการ เช่น ลูกอึแข็ง หรือ ลูกอุจจาระเหนียว และควรใช้วิธีแก้ไขที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ลูกขับถ่ายสะดวกขึ้น บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปดู 10 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยดูแลลูกที่มีอาการท้องผูก ให้สามารถขับถ่ายได้อย่างสะดวกสบายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แนะนำการดูแลแบบง่าย 10 วิธีสำหรับดูแลลูกท้องผูก 2 ขวบ ดังนี้
หากเด็กอายุ 3 ขวบไม่ถ่ายหลายวันหรือถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีอาการปวดท้อง มีไข้ หรือมีเลือดปนในอุจจาระ ควรพาไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจมีปัญหาทางการแพทย์ที่ต้องการการรักษาเฉพาะทาง
หากลูกไม่ถ่ายหลายวันติดต่อกัน (มากกว่า 7 วัน) ควรพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุและรับการรักษา เนื่องจากอาจมีปัญหาที่ต้องการการดูแลเฉพาะ
การเลือกอาหารที่มีกากใยสูงและช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดอาการท้องผูกของลูกน้อย อาหารที่ช่วยได้แก่ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี ซึ่งมีไฟเบอร์สูงและช่วยในการขับถ่าย, ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ องุ่น หรือส้ม, ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือขนมปังโฮลวีต ซึ่งมีไฟเบอร์ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรให้ลูกดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวันเพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวและขับถ่ายได้ดีขึ้น
อย่ากดดันหรือทำให้ลูกเครียด พยายามทำให้การขับถ่ายเป็นเรื่องธรรมชาติและไม่ควรบังคับลูกให้นั่งบนโถส้วมเป็นเวลานาน ๆ พร้อมทั้งสร้างนิสัยการขับถ่ายเป็นประจำ ควรให้ลูกมีเวลาขับถ่ายที่แน่นอนในแต่ละวัน โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร และไม่ควรปล่อยให้ลูกกลั้นอุจจาระ ให้เขาไปที่ห้องน้ำโดยเร็วที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาท้องผูก
การพบแพทย์ควรทำในกรณีเมื่อท้องผูกเรื้อรัง ลูกไม่สามารถขับถ่ายได้เป็นปกติ หรือไม่ถ่ายเป็นเวลานาน (มากกว่า 2-3 วัน) แม้จะได้พยายามรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว หรือมีอาการเจ็บปวดร้องไห้เมื่อพยายามขับถ่าย มีเลือดปนในอุจจาระหรือมีสีเปลี่ยนไป ทั้งอาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ไข้ ซึม หรือท้องผูกพร้อมกับน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว หากพบอาการเหล่านี้ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม
การดูแลเรื่องระบบขับถ่ายของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่ควรให้ลูกได้รับอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และสร้างนิสัยการขับถ่ายที่เหมาะสม หากพบว่า ลูกถ่ายแข็งเป็นก้อน, ลูกอึแข็ง ก็ควรใช้วิธีการดูแลที่แนะนำข้างต้นเพื่อช่วยให้ลูกกลับมาขับถ่ายปกติ หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง