นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
1,000 วันแรกของลูกเป็นช่วงเวลาทองที่สำคัญที่สุดในการสร้างสมอง และเสริมภูมิต้านทาน เพื่อสร้างศักยภาพไร้ขีดจำกัดของลูกน้อยในอนาคต
ช่วงเวลานี้มีการเชื่อมโยงเซลล์สมองกว่า 1,000 ล้านล้านเซลล์ซึ่งมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า(1) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้ที่พลาดไม่ได้ แม่ๆจึงควรให้ความสำคัญอย่างมาก ในการพัฒนาศักยภาพสมองของลูกน้อยเพราะมีผลกระทบต่อกระบวนการเรียนรู้ในระยะยาว ลูกควรได้รับสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะ 5 สารอาหารสมอง ที่มีความสำคัญทั้งต่อพัฒนาการลูกน้อยซึ่งเริ่มตั้งแต่ พัฒนาการเด็ก 1 เดือนแรก ไปจนถึงพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ซึ่งสารอาหารสมองทั้ง 5 สามารถพบได้ในนมแม่ โดยสารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง และยังช่วยการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท ดังนั้น โภชนาการที่เหมาะสมและการได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในช่วงวัยนี้ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของสมองในระยะยาว ช่วยเสริมศักยภาพลูกน้อยให้ไร้ขีดจำกัด
ดีเอชเอ (DHA)
การคิดวิเคราห์ แก้ปัญหา
โอเมเก้า 3,6,9 (Omega3,6,9)
ระบบสายตาและการมองเห็น
สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin)
ความจำและการเรียนรู้
ทริปโตเฟน (Tryptophan)
ความคิดสร้างสรรค์ ความยืดหยุ่นทางความคิด
วิตามินบี 12 (Vitamin B12)
ทักษะทางภาษาและการสื่อสาร
0-3 ขวบปีแรก เป็นช่วงโอกาสทองของการพัฒนาศักยภาพสมอง ที่มีผลสำคัญต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาสมองอย่างเต็มศักยภาพต้องการสารอาหารมากกว่า 1 ชนิด โภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 สารอาหารล้ำค่าที่พบในนมแม่ ซึ่งประกอบด้วย
จากผลการวิจัย(2) แสดงให้เห็นว่าเด็กที่เกิดจากแม่ที่รับประทาน ดีเอชเอ (DHA) ระหว่างการตั้งครรภ์ จะสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า 19% เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับดีเอชเอ (DHA) ในการช่วยบำรุงสมอง โดยวัดผลที่อายุ 9 เดือน นั่นก็เพราะในนมแม่จะมีปริมาณของ DHA มากขึ้น และมีคุณประโยชน์มากกว่าเดิม งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ ดีเอชเอ (DHA) ต่อการพัฒนาสมองตั้งแต่ก่อนคลอดและส่งผลต่อเนื่อง ทั้งในด้านความคิดและการวิเคราะห์ของเด็กในช่วงเริ่มต้นของชีวิต ซึ่ง ดีเอชเอ (DHA) สามารถพบได้มากในนมแม่ และ ปลาทะเล อย่างเช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน
ในช่วงอายุ 12 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากรดไขมัน โอเมก้า 3,6,9 (Omega3,6,9) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการมองเห็นที่พัฒนาอย่างเหมาะสมในวัยเด็ก นอกจากนั้นสารอาหารทั้ง 3 ชนิดนี้จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ โดยพบสารอาหารนี้ได้ในนมแม่ และพบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า และปลาแซลมอน
เนื่องจากสมองของเด็กในวัยนี้กำลังเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว การมีปริมาณสฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin) ที่เหมาะสมจะช่วยให้การเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาททำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เด็กสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางปัญญาได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการพิสูจน์(4) แล้วว่าช่วยในการสร้างปลอกไมอีลิน (myelin sheath) ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งส่งผลต่อความจำและการเรียนรู้ในอนาคต ซึ่งสฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin) นี้สามารถพบได้มากในนมแม่ ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ และชีส
อีกทั้งยังช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นของโครงข่ายประสาท (Synapse plasticity) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่นทางความคิด โดยพบ ทริปโตเฟน (Tryptophan) ได้มากในนมแม่ เนื้อไก่ ปลาแซลมอน และกรีกโยเกิร์ต
ในด้านทักษะการเรียนรู้และภาษามากขึ้น 5-7% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มแม่ที่ไม่ได้เสริมวิตามินบี 12 (Vitamin B12) การมีวิตามินบี 12 (Vitamin B12) ที่เพียงพอจึงมีความสำคัญต่อการกระตุ้นพัฒนาการและทักษะเหล่านี้ในเด็ก โดยสามารถพบวิตามินบี 12 (Vitamin B12) ได้มากในนมแม่ ไข่ สาหร่ายแห้ง โยเกิร์ต และปลาทะเล เป็นต้น
การให้เด็กได้รับอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสม คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพสมองของลูกน้อยให้ไร้ขีดจำกัด มีผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและพัฒนาการสมองของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 สารอาหารสมอง ที่สามารถพบได้ในนมแม่ ซึ่งประกอบด้วยดีเอชเอ (DHA), โอเมก้า 3, 6, 9 (Omega 3, 6, 9), สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin), ทริปโตเฟน (Tryptophan) และวิตามินบี 12 (Vitamin B12) ให้วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของลูกน้อยในอนาคต
Reference:
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง