นมแม่ดีที่สุด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก

เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง

การดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ คุณแม่และคนใกล้ตัวจึงควรเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเอง ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นราว 5-6 สัปดาห์เพื่อให้ร่างกายค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปกติ พร้อมไปกับการปรับตัวเข้าสู่บทบาทความเป็นแม่อย่างเต็มตัว

1.    การเคลื่อนไหวร่างกายหลังคลอด
คุณแม่ควรเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการเดิน เข้าห้องน้ำเอง ฝึกดูแลลูกเอง เพราะการเคลื่อนไหวจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ขยับตัวและทำให้แผลฝีเย็บสมานเร็วขึ้น

2.    การดูแลแผลฝีเย็บ
คุณแม่อาจรู้สึกปวดแผลฝีเย็บซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ควรดูแลทำความสะอาดแผลฝีเย็บและคอยสังเกตน้ำคาวปลา

·    การล้างแผลฝีเย็บ ควรล้างด้วยน้ำต้มสุกอุ่นๆ แล้วใช้ผ้าสะอาดหรือสำลีซับให้แห้ง ห้ามใช้หัวฉีดล้างชำระหรือใช้ฝักบัวล้างโดยตรง เพราะแรงดันของน้ำอาจทำให้แผลเปิดได้ และยังอาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปสู่แผลได้อีกด้วย หลังจากนั้น 5-6 วัน แผลจะเริ่มติดกันและแห้งสนิท

·    น้ำคาวปลา คือเนื้อเยื่อและเลือดที่ไหลออกมาจากโพรงมดลูกหลังการคลอด ซึ่งเกิดจากการหลุดลอกตัวของรก น้ำคาวปลาจะถูกขับออกมาจากมดลูกจนกว่าแผลจะหาย คุณแม่ต้องใส่ผ้าอนามัยเอาไว้และเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ระยะเวลาในการมีน้ำคาวปลาจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 2-6 สัปดาห์ แต่โดยทั่วไปจะมีประมาณ 3 สัปดาห์

3.    การรับประทานอาหาร
ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย รสไม่จัด และมีกากใยมาก เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีน เครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงอาหารปรุงไม่สุก และอาหารหมักดอง รวมทั้งอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นฉุนรุนแรง เช่น เครื่องเทศต่างๆ อาจทำให้น้ำนมมีรสชาติหรือกลิ่นผิดไป

4.    การพักผ่อนร่างกายหลังคลอด
คุณแม่หาโอกาสพักผ่อนในช่วงที่ลูกนอนหลับ โดยควรนอนหลับรวมแล้วอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง

5.    การบริหารร่างกายหลังคลอด
สามารถเริ่มบริหารร่างกายได้ตั้งแต่วันที่ 2 หลังการคลอดเป็นต้นไป เพื่อให้ผนังท้องที่หย่อนยานหลังคลอด และผนังช่องคลอดกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว ควรฝึกขมิบบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความกระชับของบริเวณช่องคลอด เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อพยุงช่องเชิงกราน ช่วยลดโอกาสของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อน และลดโอกาสเกิดปัสสาวะเล็ดอีกด้วย

6.    การดูแลผิวพรรณหลังคลอด
ใช้ครีมทาผิวหรือทาแก้ท้องลายนวดบริเวณหน้าท้องที่แตกลายได้วันละหลายๆ ครั้ง ส่วนรอยดำคล้ำตามบริเวณข้อพับต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างการตั้งครรภ์ จะค่อยๆ จางลงในช่วงหลังคลอด

7.    การดูแลผมหลังคลอด
ในระยะหลังคลอด คุณแม่อาจผมร่วงมากกว่าปกติ ไม่ควรกังวล เพราะอาการผมร่วงนี้จะหายไปเองภายใน 6-12 เดือน คุณแม่อาจตัดผมสั้น ซึ่งเป็นทรงที่ดูแลง่าย ไม่ต้องหวีผมบ่อย จึงจะช่วยลดอาการผมร่วงได้ดีขึ้น

8.    การมีเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิดหลังคลอด
ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกระทั่งมาตรวจสุขภาพในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อเป็นการรักษาแผลที่ฝีเย็บ และป้องกันการติดเชื้อในโพรงมดลูก และสามารถเริ่มคุมกำเนิดหลังจากไปตรวจร่างกายเมื่อครบ 6 สัปดาห์หลังคลอดเช่นกัน

9.    การตรวจร่างกายหลังคลอด
คุณแม่ควรได้รับการตรวจร่างกายในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อตรวจดูการคืนสภาพของปากมดลูกและอวัยวะในอุ้งเชิงกราน และตรวจหาความผิดปกติต่างๆ ด้วยการตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องอย่างรุนแรง น้ำคาวปลาผิดปกติ แผลฝีเย็บผิดปกติ มีก้อนที่เต้านม มีไข้หนาวสั่น มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การอยู่ไฟสำหรับคุณแม่คลอดธรรมชาติ?

หลังจากการคลอดบุตร จะทำให้ธาตุในร่างกายทั้ง 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เกิดเสียสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุไฟ ทำให้คุณแม่ไม่สบายตัว ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย จึงจำเป็นต้องฟื้นฟูสุขภาพของคุณแม่ด้วยการอยู่ไฟ ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่จะช่วยให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล

คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ สามารถอยู่ไฟได้หลังจากการคลอดแล้ว 7-10 วัน โดยแผลบริเวณช่องคลอดต้องแห้งสนิทดี และเพื่อให้การอยู่ไฟได้ผลดีมากที่สุด ควรทำภายใน 3 เดือนหลังจากคลอดบุตร ระยะเวลาในการอยู่ไฟ จะทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-10 วัน

ประโยชน์ของการอยู่ไฟ นอกจากจะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกายของคุณแม่แล้ว ยังช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ขับน้ำคาวปลา ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ลดอาการคัดตึงเต้านม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และยังช่วยให้หน้าท้องกระชับอีกด้วย

เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์

แรงงานและการตั้งครรภ์

วิธีสร้างสติแและความมั่นใจในช่วงการคลอด เมื่อถึงเวลานั้นคุณแม่อาจมีคำถามนับล้านข้อเกี่ยวกับระยะต่างๆ ของการคลอด ว่าจะต้องทำอย่างไรและจะเกิดขึ้นในตอนคลอดบ้าง

การเตรียมตัวและสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์

การหมั่นดูแลสุขภาพช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้อย่างไร การเตรียมร่างกายของคุณให้พร้อมสำหรับการมีลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่ดูแลตัวเองและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการให้กำเนิดและการเติบโตของชีวิตน้อยๆ ส่วนคู่รักของคุณ
carelinepic_resized2

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

x